พฤกษ์

ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์

ชื่อสามัญ : Indian Walnut, Siris

ชื่ออื่นๆ : ซึก, ซิก, จามจุรี, กะซึก, ชุงรุ้ง, ก้ามปู, คะโก, จามรี (ภาคกลาง) มะขามโคก, มะรุมป่า (นครราชสีมา) ก้านฮุ้ง (ชัยภูมิ) ถ่อนนา (เลย) พญากะบุก (ปราจีน) จ๊าขาม (ภาคเหนือ) ตุ๊ด (ตาก) กรีด, แกร๊ะ (ภาคใต้) กาแซ, กาไม (สุราษฎร์ธานี)

วงศ์ : วงศ์ถั่ว Leguminosae และวงศ์ย่อย Mimosoideae

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia lebbeck Benth.

ชื่อพ้องวิทย์ : –

ลักษณะสำคัญ : ไม้โตเร็ว ทรงพุ่มโปร่ง ใหญ่ แผ่กว้าง ไม่สม่ำเสมอ กิ่งก้านใหญ่และบิดงอ เปราะ เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม มีรอยแตกตื้นแต่หนาแน่น ใบ ก้านใบชั้นที่หนึ่ง 2-4 คู่ ก้านยาวสุดมีใบย่อย 3-6(9) ใบ ขนาด 1.5-5.5 x 0.9-3 ซม. ปลายมักเป็นติ่ง เส้นใบหลักไม่สมมาตร หูใบขนาดเล็กมาก ดอกเป็นช่อกลมกว้าง 4-7 ซม. สีขาวอมเขียว เปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อน ช่อหนึ่งมี 2-4 ซ่อ ออกร่วมกันในซอกใบบนๆ ช่อไม่แตกแขนง ดอกย่อยมีก้าน 2-4 มม. ชั้นกลีบดอก 7.5-11 มม. มีพูกลีบยาวเท่ากับหลอดกลีบ เกสรตัวผู้ยาวกว่า 25 มม. ดอกย่อยตรงกลาง แตกต่างจากดอกด้านข้าง ดอกมีกลิ่นหอมตอนเย็น ผล (10)15-35 x 3-4 ซม. สีเหลืองอ่อน ผิวบางและแบน แตกได้มี 4-12 เมล็ด

ระบบนิเวศและการกระจาย : กระจายพันธุ์ในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงตอนเหนือออสเตรเลีย ขึ้นได้ในเขตสะวันนา จนถึงริมแม่น้ำ ในไทยพบทุกภาค ในป่าที่โล่งแจ้ง หรือนำมาปลูก

การเพาะปลูก : เติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น แต่ธรรมชาติของมันอยู่ในเขตกึ่งแห้งแล้งจนถึงเขตร้อนที่มีลักษณะฝนและแล้ง แบ่งกันชัดเจน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีต่ำถึง 400 มม. และทนอุณหภูมิได้ถึง 48 oC ชอบแดดจัด ดินระบายน้ำได้ดีแต่ยังมีความชื้นพอ เติบโตได้ในดินทุกชนิดรวมถึงดินเค็ม ทนต่อดินที่เสื่อมโทรมหรือธาตุอาหารในดินต่ำ pH 6-7 ทนได้ 5.5-8.5 ต้นกล้าไม่ทนน้ำขัง และปลูกในที่มีที่บังลม มันสามารถสูงถึง 18 เมตรภายใน 10 ปี หากปลูกเพื่อเป็นไม้เชื้อเพลิง รอบการตัดหมุนเวียนอยู่ที่ 10-15 ปี ให้ผลผลิตได้ประมาณ 5 ลบ.ม./เฮกตาร์ กิ่งเปราะหักง่าย หรือโค่นล้มเมื่อลมแรงถึงแม้ว่าระบบรากแผ่กว้างแต่ตื้น ตอบสนองดีต่อการตัดแต่งกิ่ง จนถึงตัดราก ผึ้งและแมลงช่วยผสมพันธุ์

การขยายพันธุ์ : มีหลายวิธีการ เพาะเมล็ด ตอนกิ่งและปักชำ เมล็ดไม่แข็งมาก แช่ในน้ำอุ่น 50 oC เป็นเวลา 3 นาที จะทำให้งอกได้ดี ระวังเมล็ดเสียหายเนื่องจากเมล็ดบาง ค่อนข้างผอม หากได้น้ำร้อนเกินไป นำไปหยอดหลุมในแปลงได้ทันที

ส่วนของพืชที่ใช้ประโยชน์ : ยอดอ่อน ฝักอ่อน

แหล่งเก็บหา : ป่าชุมชน ริมถนน ป่าหัวไร่ปลายนา สวนสาธารณะ

ความเป็นพิษ : ฝุ่นจากไม้มีกลิ่นหอมและเผ็ดร้อน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูกและลำคอของคนงานโรงเลื่อย เปลือกใช้เป็นยาเบื่อปลา สีย้อมสีแดงจากเปลือกไม้ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ฝักมีซาโปนินและกินไม่ได้มาก แต่กับสัตว์ในฟาร์มเช่นแกะกินได้โดยไม่เป็นพิษ

หมายเหตุ : มีชนิดที่คล้ายกันคือทิ้งถ่อน (54) หรือSit,White siris ซึ่งทางภาคอีสานนิยมนำยอดมารับประทาน และมีวางขายในตลาดชุมชน

เมนูอาหารผักยืนต้น

พฤกษ์หรือซึกเป็นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ ต้นที่อายุมากๆอาจสูงได้กว่า 25 เมตร กิ่งก้านแผ่ขยายให้ร่มเงากว้างขวาง ยอดและใบอ่อนซึกมีรสหวานมัน ลวกหรือต้มให้รสชาติดีมาก โดยเฉพาะหากผัดไฟแดงหรือแกงเลียงใส่ปลาย่างหรือกุ้งแห้ง

อาจนับเป็นผักยืนต้นที่มียอดอ่อนที่รสชาติดีมากอีกชนิดหนึ่งในระดับเดียวกันกับผักอีกล่ำหรือมะกล่ำตาช้างทีเดียว

ดอกอ่อนลักษณะเหมือนดอกจามจุรี แต่สีออกเหลืองอ่อน แทนที่จะเป็นมีชมพูเหลือบ กินได้เหมือนใบอ่อน มีรสมันเช่นกัน

เลียงผักซึก

ยอดผักซึกอ่อนๆ ที่แตกจากการตัดกิ่งใหญ่จะหวานอร่อย นุ่มนวล ผัดไฟแดงได้ความกรอบกรุบ แต่ถ้ามีใบที่ไม่อ่อนมากนักปนมาด้วย ก็เหมาะจะเลียงซดน้ำร้อนๆ บางคนชอบใส่หางกะทิเพิ่มความมันให้น้ำแกง ทั้งยังส่งผลให้กลิ่นกะปิในเครื่องแกงหอมกว่าเลียงในน้ำเปล่าๆ

เครื่องปรุง

พริกไทย หอมแดง รากกระชาย กะปิ กุ้งแห้ง ผักซึก เกลือป่น

วิธีปรุง

ตำพริกไทย หอมแดง กะปิ กุ้งแห้ง และรากกระชายให้แหลกเป็นน้ำพริกเลียง เอาละลายในหม้อน้ำ ตั้งไฟให้เดือด เติมเกลือป่นให้ออกรสเค็ม แล้วใส่ผักซึก ต้มจนผักสุกและกลิ่นน้ำแกงหอมกะปิ

จาก หนังสือผักยืนต้น กินผักอายุยืน โลกอายุยาว โดย กฤช เหลือลมัย หน้า 43

ข้อมูลทางโภชนาการ

ใบอีซึกสด 1 กิโลกรัม
โปรตีน ร้อยละ 16.2
เส้นใยอาหาร ร้อยละ 29.6
พลังงาน 18.8 MJ/kg
แคลเซียม 19.3 g/kg
ฟอสฟอรัส 1.7 g/kg
กรดอะมิโน อาร์จินีน ร้อยละ 4.8 ของโปรตีน
กรดอะมิโน ลูซีน ร้อยละ 6.8 ของโปรตีน
กรดอะมิโน วาลีน ร้อยละ 4.9 ของโปรตีน

ที่มา : CIRAD, 1991; Gaulier, 1968; Khajuria et al., 1968; Malik et al., 1967; Sharma et al., 1966

สรรพคุณทางยา

การใช้ประโยชน์อื่นๆ

  • ในอินเดียปลูกเป็นสวนเพื่อผลิตไม้เนื้อแข็งคุณภาพสูงส่งออกไปยังยุโรป ในชื่อ Indian walnut หรือ koko
  • เป็นไม้ให้ร่มเงาสวนโกโก้ กาแฟ กระวาน และเป็นไม้ที่ได้รับการส่งเสริมปลูกในโครงการวนเกษตร สวนป่า และสร้างป่าไม้ใบพื้นที่แล้งของเขตร้อนชื้น
  • ต้นช่วยตรึงไนโตรเจนในบรรยากาศ ใบอุดมด้วยไนโตรเจนเป็นปุ๋ยพืชสดหรือคลุมดิน แสงที่ส่องผ่านทรงพุ่มได้ 40-50% ช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพทุ่งหญ้าให้สัตว์ในฟาร์ม
  • แม้ว่าต้นจะไม่มั่นคงแต่ก็สามารถทนลมทะเล ไอเกลือได้ดี สามารถปลูกในพื้นที่ชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะ และเป็นกำแพงธรรมชาติได้เร็ว
  • น้ำผึ้งที่มาจากน้ำหวานและละอองเกสรดอกไม้มีคุณค่า
  • ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ว่าฝักสามารถผลิตเอทานอลได้ 10 บาร์เรลต่อเฮกตาร์ต่อปี
  • ลำต้นให้น้ำยางสีแดงมันถูกนำไปใช้เป็นสารเจือปนของหมากฝรั่งอาหรับ
  • เปลือกให้สีย้อมสีแดง มีแทนนิน 7-11% ในอินเดียใช้เพื่อฟอกอวนประมง เมื่อเปลือกแห้งและนำมาทุบใช้เป็นสบู่ได้
  • เมื่อตัดใหม่แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลทองแล้วจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มที่มีเส้นดำ กระพี้สีจางถูกแบ่งอย่างชัดเจน พื้นผิวหยาบปานกลาง ไม้เนื้อแข็งปานกลาง ทนทานพอสมควร ทำงานง่าย ไม้เหมาะกับแกะสลัก ก่อสร้างทั่วไป เฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด อุปกรณ์การเกษตร
  • เป็นไม้เชื้อเพลิงและถ่านอย่างดี