
อยู่นนทบุรี ก็มีผักเซียงดากินนะคะ ปลูกไว้ต้นนึงที่ซุ้มไม้เหนืออ่างล้างจาน เพราะอยากได้ร่มเงาที่กินได้รั ผักเซียงดามีประโยชน์มากมาย โดดเด่นเรื่องว่าสามารถลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย พิจารณาดูแล้วคงได้สักหม้อ วันนี้ชาวสวนชีววิถีจัดแจงเก็บผักเซียงดา เก็บมะเขือเทศลูกจิ๋วแบบที่ใส่ส้มตำลาว คนเมือง(เหนือ) จะเรียก มะเขือส้ม คนอีสานเรียกบักเขียเคีย แกงวันนี้ มีคนเมืองเชียงใหม่ ลงไม้ลงมือ จะรอช้าอยู่ใย ไปชมขั้นตอนกันเลยค่า
แกงผักเซียงดาใส่ปลาแห้ง หรือออกเสียง ป๋าแห้ง ตวยนะเจ้า แบบในเพลงของกินบ้านเฮาฯ ก็เป็นแกง กลุ่มแกงเลียง รสโปร่ง ได้กินผักซดน้ำ และหอมปลาย่าง
เล็งมาหลายวัน ผักเซียงดาที่ซุ้มล้างจาน ย้ายถิ่นฐานมาอยู่นนทบุรี ก็งอกงามดีใช้ได้เลย วัตถุดิบหลัก ผักเซียงดา ล้าง เด็ด เรียบร้อย มะเขือส้ม และ ปลาย่างหรือปลาแห้ง ใส่ปลาแห้งลงไปก่อนจะได้นุ่มๆ พร้อมแกง กะว่าปลาแห้งนุ่มลงแล้วตามด้วยผักเซียงดา หน้าตาเครื่องแกง ที่ตำแล้วเรียบร้อย เก็บได้ปริมาณพอแกงหนึ่งหม้อ หรือ 2 ชาม ผักเซียงดา ชูช่อสู้แดด ปล่อยให้เดือดจนผักเปื่อยนุ่ม เบาไฟ ปรุงรสเค็มเพิ่ม จะเป็นเกลือ น้ำปลา หรือจะน้ำปลาร้าก็ได้ ตามสะดวก อ้อ ผ่าซะหน่อย มะเขือส้มตามลงไปเลย ดอกผักเซียงดา ดอกของผักเซียงดา เป็นช่อเล็กๆ เก็บมะเขือส้ม ตำกันสดๆ เครื่องแกง พริกแห้ง หอม กระเทียม กะปิ เกลือ และเราจะโขลกปลาแห้งส่วนหนึ่งลงไปให้น้ำแกงข้น เลือกเด็ดยอดอ่อนๆ แกะปลาย่างเอาก้างเเข็งออก เอาทั้งยอดอ่อน ทั้งช่อดอก น้ำเดือด ใส่เครื่องแกง ลงไปละลาย